สนามบินโคราช

การเดินทางกำลังจะเริ่มแล้ว กับการบินของโคราช ทุกคนคงมีคำถามในใจว่า เอาอะรขึ้นเครื่องได้บ้าง เมือเราจะเดินทางด้วยเครื่องบิน เวลาจัดกระเป๋าก็จะคิดแล้วคิดอีก และไม่มั่นใจกับของที่กำลังจัด ว่าสิ่งนี้ขึ้นได้ไม่ได้ วันนี้เรานำข้ออมูลรายการสิ่งของที่ไม่อนุญาตให้พกติดตัวขึ้นเครื่องบิน รวมถึงการโหลดลงใต้เครื่องบินมาดูกัน ว่าอะไรบ้าง

1. เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ของเหลวทุกชนิดที่มีความจุต่อชิ้นเกิน 100 มล. รวมไม่เกิน 1 ลิตร (1,000 มล.) เช่น เจล น้ำหอม สบู่เหลว สเปรย์ ห้ามพกติดตัวขึ้นเครื่องบิน แต่สามารถนำใส่กระเป๋าที่จะโหลดได้ ทั้งนี้เป็นมาตรการป้องกันการก่อการร้าย ที่เข้มงวดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ 911 แต่ถ้าเป็นยาที่จำเป็นต้องพกติดตัว ก็สามารถพกพาได้ในปริมาณที่เหมาะสม เช่น ชุดยาแก้เบาหวาน

2. แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ไม่สามารถนำแบตเตอรี่สำรองทุกชนิดใส่กระเป๋าที่นำไปเช็คอิน แต่สามารถพกพาใส่กระเป๋าถือขึ้นไปได้ โดยต้องเป็นแบตเตอรี่สำรองที่มีค่าความจุไฟฟ้าไม่เกิน 32,000 mAh ไม่เกินคนละ 2 ชิ้น

3. อาวุธ ปืน และอาวุธทุกชนิด รวมถึงอาวุธโดยสภาพ เช่น มีด สนับมือ ดาบ ทวน กระบอง และสิ่งเทียมอาวุธ เช่น ปืนไฟแช็ก ระเบิดไฟแช็ก ปืนเด็กเล่น 4. ของมีคม ไม้บรรทัดเหล็ก คัตเตอร์ กรรไกรตัดเล็บ เข็มเย็บผ้า มีด มีดพับ มีดพก และของมีคมทุกชนิด ที่อาจทำให้เกิดอันตราย แต่หากเป็นของใช้ที่จำเป็น อาจอนุญาตให้เก็บไว้ในกระเป๋าใบใหญ่ที่โหลดใต้เครื่องบินได้ แต่ไม่อนุญาตให้พกพาขึ้นเครื่องบิน อาวุธ ของมีคม วัตถุไวไฟ อาหารที่มีกลิ่นแรง

5. วัตถุไวไฟ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระเบิดหรือเพลิงไหม้ เช่น น้ำมันไฟแช็ก เชื้อเพลิงแข็ง สีน้ำมัน ไม้ขีดไฟ ฯลฯ

6. อาหารที่มีกลิ่นแรง อาหารต่างๆ เช่น อาหารทะเล เนื้อสัตว์สด/แช่แข็ง ทุเรียน ปลาร้า ต้องแพ็คมาอย่างเหมาะสม

7. สัตว์มีพิษ สัตว์ดุร้าย รวมถึงสัตว์ขนาดใหญ่ สัตว์สงวน นอกจากอาจรบกวนผู้อื่นแล้ว ยังผิดกฎหมายอีกด้วย

8. สารอันตรายต่างๆ เช่น สารกำจัดแมลง สารหนู วัตถุออกซิไดซ์ เช่น แอมโมเนียไนเตรท แคลเซียมเปอร์ออกไซด์ วัตถุก๊าซมันตภาพรังสี เช่น ธาตุยูเรเนียม วัตถุกัดกร่อน เช่น แบตเตอรีที่บรรจุสารกัดกร่อน น้ำกรด ปรอท ฯลฯ

9. สิ่งของอื่นๆ เช่น แม่เหล็ก น้ำแข็งแห้ง

เรียบเรียง หมีขีบยายอวกาศ
ที่มา cigna.co.th

ขอบอกว่าดีใจกับชาวโคราช ที่จะได้ใช้สนามบินกันแล้ว ด้วยการเปิดเส้นทางบินในประเทศใหม่พร้อมกัน 2 เส้นทาง ประกอบด้วยเส้นทางการบิน นครราชสีมา-เชียงใหม่ และ นครราชสีมา – ภูเก็ต โดยเป็นการบินตรงทุกวัน เปิดให้สำรองที่นั่งวันแรกในวันพฤหัสบดี ที่ 16 พฤศจิกายน 2560 นี้ในวันนี้ และวันนี้เรานำเทคนิคการจองตั๋วเครื่องบินให้ได้ราคาถูก โดนใจมาฝาก มาดูกันว่าต้องทำยังไงบ้าง

1. จองให้ถูกเวลา

หลังจากคุณรู้แล้วว่าจะไปไหน ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรจะจองตั๋ว ไม่ควรจองตั๋วช้าจนเกินไป แนะนำว่าควรจะจองก่อนล่วงหน้าประมาณ 7-9 สัปดาห์หรือ 49-60 วัน  สิ่งที่สำคัญก็คืออย่างจองตั๋วช้าจนเกินไป อย่างเช่นจองก่อน 1-2 สัปดาห์นี่ ราคาตั๋วจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว และไม่ควรจะจองล่วงหน้ามากเกินไปด้วย เช่น จองล่วงหน้าหนึ่งปี อย่างที่บอกไปใช้ตัวเลขข้างต้นน่าจะดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พูดมาคงใช้ไม่ได้ถ้าคุณจะเดินทางในช่วงวันหยุดหรือช่วง high season ที่มีคนไปเที่ยวจำนวนมาก

2. ตั๋วบางวันก็ถูกกว่าวันอื่น

การเลือกวันภายในสัปดาห์ที่จะเดินทางก็สำคัญมากเช่นกัน โดยเฉพาะเที่ยวบินภายใน ส่วนใหญ่แล้ว วันที่ถูกจะเป็น อังคารและวันพุธ ส่วนวันที่แพงที่สุดจะเป็น วันศุกร์และวันอาทิตย์ เลือกให้ถูกวันแล้วจะได้ตั๋วถูกลงไปอีก

3. เช็คราคาค่าโดยสารอยู่บ่อยๆ

ราคาค่าโดยสารหรือราคาตั๋วนั้น ส่วนใหญ่แล้วทางสายการบินจะปรับเปลี่ยนราคาตลอดเวลา เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง จริงๆเบื้องหลังจะมีคอมพิวเตอร์ที่ไว้คำนวณค่าโดยสารที่มันจะปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา พูดง่ายๆเหมือนราคาหุ้นเลยครับ คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้ เพราะฉะนั้น แนะนำว่าหลังจากเรารู้แล้วว่าเราจะจองตั๋วเดินทาง ก็ให้รีบเข้าไปเช็คดูค่าโดยสารก่อนเลยครับ แล้วก็กลับเข้าไปเช็คเรื่อยๆสักอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ถ้าเราเจอราคาที่โดนใจก็กดจองไปเลยครับเพราะต่อไปอาจจะไม่ได้ราคานี้อีกแล้วก็ได้

4. คำนึงถึงช่วงวันหยุดเทศกาลหรือหน้า high (ช่วงที่คนนิยมไปเที่ยว) ด้วย

อยากให้รู้ว่า “รู้ว่าควรควรซื้อตั๋วเมื่อไหร่” สำคัญพอๆกับ “รู้ว่าควรจะเดินทางวันไหน” เพราะจริงๆแล้วสิ่งที่ทำให้ตั๋วราคาขึ้นนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเที่ยวบินนั้นคนแน่นขนาดไหน เพราะฉะนั้นช่วงวันหยุดที่คนนิยมไปเที่ยวกันเที่ยวบินเต็มตั๋วก็แพงแน่นอนหละครับ ก็แนะนำว่าให้ลองหาข้อมูลของจุดหมายที่จะไปดูครับว่าช่วงที่คุณจะเดินทางเค้ามีเทศกาลอะไรหรือเปล่า อย่างเช่น ในไทยช่วงเทศกาลปีใหม่หรือสงกรานต์ นี่ตั๋วแพงสุดๆ รวมไปถึงเรื่อง ฤดูกาลด้วยนะครับอย่างเช่น บางประเทศที่คนนิยมไปเที่ยวกันในฤดูหนาว

5. เลือกตั๋วจากหลายสายการบิน

สายการบินมีให้เลือกสรรเยอะแยะไปหมด ทั้ง แอร์เอเชีย, การบินไทย, นกแอร์ และอื่นๆอีกมากมายและยังมี travel agency ที่นำตั๋วของสายการบินมาขายอีก ราคาของแต่ละที่แตกต่างกันแน่นอนเพราะฉะนั้นก็หาตั๋วจากหลายๆที่เปรียบเทียบราคากันแล้วเลือกสายการบินที่ให้ราคาถูกใจที่สุดครับ หรือถ้าใหัสะดวกขึ้นก็ให้ใช้บริการ meta search อย่างเช่น Jetradar ซึ่งจะรวบรวมและเปรียบเทียบราคาตั๋วของหลายๆที่ไว้ในที่เดียวทำให้ประหยัดเวลาไปได้มากเลย

6. คำนึงเรื่องค่าสัมภาระ

สายการบินแต่ละที่มีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับน้ำหนักของสัมภาระที่จะให้โหลดแตกต่างกันไปครับ อย่างเช่น พวกสายการบินราถาถูก (low cost) จะมีการจำกัดน้ำหนักไว้ ถ้าสัมภาระคุณมีน้ำหนักเกินคุณก็ต้องจ่ายค่าสัมภาระเพิ่มเติม ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องซื้อครับ ให้ดููดีๆนะครับตอนจองตั๋ว ดังนั้นจึงต้องลองเปรียบเทียบราคาจากหลายๆที่ ส่วนอีกอย่างที่อยากจะบอกคือ สัมภาระที่คุณจะนำติดตัวขึ้นเครื่องไป ทางสายการบินเขากำหนดมาล่วงหน้านะครับว่า ต่อคนเราสามารถถือกระเป๋าขนาดและน้ำหนักเท่าไหร่ขึ้นเครื่องไปได้ แต่ถ้าคุณไม่ได้เตรียมมาและสัมภาระของคุณขัดกับข้อกำหนดของสายการบินละก็ คุณจะไม่มีทางเลือก ต้องโหลดกระเป๋าเท่านั้นนะครับ เผลอๆอาจจะต้องเสียค่าสัมภาระเพิ่มอีก ถ้าน้ำหนักเกินที่กำหนดไว้ในตั๋ว ดังนั้นเตรียมตัวและศึกษาก่อนเนิ่นๆนะครับจะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม

7. ตรวจสอบราคาตั๋วไปสถานที่ใกล้เคียง

เดินทางไปสถานที่ใกล้เคียงอาจจะถูกกว่าเดินทางไปสถานที่นั้นๆโดยตรง อยากเช่นเราอยากเดินทางไปเมือง A แล้ว เมือง A ติดกับเมือง B นั่งรถไฟห่างกันแค่ 3 ชม. แต่ตั๋วเครื่องบินไปเมือง A ราคา 3,000 บาท ส่วนไปเมือง B ราคา 1,500 บาทดังนั้น ถ้าเราซื้อตั๋วไปเมือง B แล้วค่อยต่อรถไฟไปเมือง A จะได้ตั๋วราถูกขึ้นไงครับ เผลอๆได้เที่ยวที่ใหม่ด้วย

8. ลองแยกจองตั๋วแทนที่จองครั้งเดียวหลายคน

หลายๆคนคงคิดว่าจองตั๋วเป็นเซทหรือทีเดียวหลายคน คงจะมีแพคเก็จลดราคาที่จะได้ส่วนลดราคาถูกกว่า สำหรับสายการบิน อันนี้ไม่จริงเสมอไป เพราะแต่ละเที่ยวบินจะมีที่นั่งราคาถูกอยู่จำกัด อย่างเช่น สมมุติว่าเราจะจองตั๋วสำหรับ 4 คน และเที่ยวบินนั้นมีตั๋วราคา 1,000 เหลือสองที่ และมีตั๋วราคา 1,500 เหลืออีกจำนวนหนึ่ง ตั๋วเครื่องบินจะจัดเป็นโซนๆครับ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณเลือกจองเป็นกรุ๊ปครั้งเดียว 4 คน ก็จะมีโอกาสที่คุณอาจจะได้ตั๋วราคา 1,500 ทั้ง 4 คน แทนที่คุณจะแยกจองที่ละ 2 แล้วคุณจะได้ราคาที่ 1,000 2 คนและอีก 2 คนที่เหลือ ได้ราคาที่ 1,500 เพราะฉะนั้น ก่อนอื่นก็ลองเช็คราคาทั้งกรุ๊ปก่อน แล้วจากนั้นลองแบ่งเป็นกรุ๊ปเล็กลง แล้วเปรียบเทียบราคาดูนะครับ

Keep Reading